22/10/55

เก๊าท์ รักษาได้หายขาด จริงหรือ ? ต้องทำยังไง ?

จริง ถ้าเรายอมรับว่า ผู้ป่วยที่รักษาแล้ว ไม่มีอาการปวดข้ออีกเลยตลอดชีวิต เรียกว่าหายเป็นโรคเก๊าท์

การรักษาโรคเก๊าท์จะต้องประกอบไปด้วยการดูแลตัวเองเพื่อมิให้กรดยูริกขึ้น เช่น การลดอาหารเนื้อสัตว์ ลดสุรา และการใช้ยาลดกรดยูริก เรามีวิธีปฏิบัติเมื่อเจาะเลือดแล้วพบว่ากรดยูริกในเลือดสูง

Acute Gouty Arthritis

โรคเก๊าท์จำเป็นต้องได้รับการรักษาเป็น 2 ระยะ ในความดูแลของแพทย์ ได้แก่

การรักษาในระยะเฉียบพลัน คือ การรักษาช่วงที่มีการอักเสบของข้อ โดยในช่วงที่มีอาการปวดอาจจะรับประทานยาแก้ปวด paracetamol หรือยาแก้ปวดอื่น และยาลดการอักเสบของข้อที่นิยม ได้แก่ ยา โคลชิซิน (Colchicine) กินวันละไม่เกิน 3 เม็ด (เช่น 1 เม็ดหลังอาหาร 3 มื้อ) จะทำให้ผู้ป่วยหายจากข้ออักเสบในเวลา 1-2 วัน อาจทำให้ข้ออักเสบหายเร็วขึ้น ถ้าใช้ร่วมกับยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตอรอยด์ บางครั้งอาจมีผู้แนะนำให้กินยาโคลชิซิน (Colchicine) 0.5 mg 1 เม็ด ทุก 1-2 ชั่วโมง จนกว่าอาการปวดจะดีขึ้นหรือเกิดอาเจียน หรือจนกว่าจะท้องเสีย ถ่ายเหลว ซึ่งไม่แนะนำ เพราะผู้ที่กินยานี้ จะท้องเสียก่อนหายปวดเสมอ และอาจให้ยาแก้ปวด NSAID เช่น aspirin,indomethacin,ibuprofen,naproxyn,piroxicam ยากลุ่มนี้มีข้อเสียคือปวดท้องและเลือดออกทางเดินอาหารได้

ช่วงที่ปวดให้พักและดื่มน้ำมากๆเพื่อป้องกันการตกตะกอนของกรดยูริก
ให้นอนพัก ยกเท้าสูง
หลีกเลี่ยงการยืนหรือการเดิน

การรักษาป้องกันข้ออักเสบ เป็นการรักษาเพื่อมิให้มีการอักเสบของข้อเรื้อรัง โดยใช้ยา colchicine 0.6 mg วันละ 1-4 เม็ด ถ้าเริ่มมีอาการของข้ออักเสบให้เพิ่มได้อีก วันละ 1-2 เม็ด การลดกรด uric ในเลือด ในกรณีที่กรด uric >9 mg% และยังมีการอักเสบของข้อหรือไตเริ่มมีอาการเสื่อม โดยถือหลักการว่า ถ้าเราลดระดับยูริคในเลือดได้ ต่ำกว่า 7 มก./ดล. จะทำให้ยูริคที่สะสมอยู่ละลายออกมา และขับถ่ายออกจนหมดได้ ยาที่นิยมใช้ได้แก่

1. ยาแผนปัจจุบัน อัลโลพูรินอล (Allopurinol) ขนาด 100-600 mg/วัน เช่น probenecid 500 mg ให้ครึ่งเม็ดวันละ 2 ครั้งค่อย ๆ เพิ่ม เนื่องจากยานี้จะเพิ่มการขับกรดยูริกทางปัสสาวะ ยานี้ควรระวังในผู้ป่วยที่ไตเสื่อมเนื่องจากอาจจะเกิดอาการผื่นและแพ้ยาได้ ไม่ควรให้ในผู้ป่วยที่มีนิ่วในไตและควรแนะนำให้ดื่มน้ำมากๆ ยานี้ต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง กินยาสม่ำเสมอ และกินไปนานอย่างน้อย 3-5 ปี เพื่อกำจัดกรดยูริคให้หมดไปจากร่างกาย การกิน ๆ หยุด ๆ จะทำให้แพ้ยาได้ง่าย ซึ่งเป็นผื่นผิวหนังชนิดรุนแรง ยากลุ่มนี้ไม่ควรให้ขณะที่มีการอักเสบของข้อเพราะจะทำให้ข้ออักเสบเพิ่มขึ้น ให้ดื่มน้ำมากกว่า 3 ลิตร/วัน

2. ยาแผนปัจจุบัน เฟบบูโซสตัท (FEBUXOSTAT) ภายหลังการทบทวนข้อมูลด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยของยา เมื่อวันที่ 26 พ.ย. ที่ผ่านมา คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญใน US FDA มีมติเห็นชอบด้วยคะแนนเสียง 12-0 รับรองให้ เฟบบูโซสตัท (FEBUXOSTAT) เป็นยาใหม่ตัวแรกในรอบ 40 ปี ที่มีข้อบ่งใช้ในการรักษาโรคเก๊าท์ ในขนาดความแรง 40- และ 80 มิลลิกรัม (บริษัททาเคดะผู้ผลิตยา แนะนำให้ใช้ขนาด 80 มิลลิกรัม เพื่อรักษาผู้ป่วยโรคเก๊าท์ที่มีอาการรุนแรง)

แต่เดิม อัลโลพูรินอล (Allopurinol) เป็นยาแผนปัจจุบันเพียงชนิดเดียวที่มีข้อบ่งใช้ในการรักษาโรคเก๊าท์ โดยออกฤทธิ์ยับยั้งการสร้างผลึกของกรดยูริคซึ่งเป็นสาเหตุของโรค ขนาดยาสูงสุด ต่อวันที่แนะนำคือ 800 มิลลิกรัม แต่โดยทั่วไปมักจะให้ยาในขนาด ≤ 300 มิลลิกรัม จึงไม่ค่อยเห็นผลในการรักษาเท่าใดนัก ทั้งนี้เพราะข้อจำกัดบางประการและผลข้างเคียงของยาซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญ ทำให้ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่สามารถทนต่อขนาดยาที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุดในการ รักษาได้ ตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยโรคเก๊าท์ที่มีการทำงานของไตบกพร่อง จำเป็นต้องปรับลดขนาดยา allopurinol จากปกติ จึงให้ผลการรักษาไม่เต็มที่ในผู้ป่วยเหล่านี้ อาการข้างเคียงที่พบได้บ่อยคือ ท้องไส้ปั่นป่วน ปวดศีรษะ ถ่ายเหลว และผื่นคัน

เต่ในปัจจุบันมียาตัวใหม่ชื่อเฟบบูโซสตัท (FEBUXOSTAT) จากผลงานวิจัย (สนับสนุนโดยบริษัทผู้ผลิต) ซึ่งทำการศึกษาเปรียบเทียบกันระหว่างการให้ อัลโลพูรินอล (Allopurinol) กับ เฟบบูโซสตัท (FEBUXOSTAT) พบว่า เฟบบูโซสตัท (FEBUXOSTAT) 80 mg ให้ผลการรักษาดีกว่า ขณะที่ เฟบบูโซสตัท (FEBUXOSTAT) 40 mg ให้ผลพอๆ กันกับการให้ อัลโลพูรินอล (Allopurinol) อย่างไรก็ตาม เฟบบูโซสตัท (FEBUXOSTAT) ถูกขับออกทางไตเพียงเล็กน้อย จึงสามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยในผู้ป่วยที่ไตทำงานบกพร่อง และจากการศึกษาทางคลินิกระยะที่ 3 ในผู้ป่วยโรคเก๊าท์จำนวนมาก พบว่า เฟบบูโซสตัท (FEBUXOSTAT) ไม่มีผลทำให้ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจหรือการเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น หรือแตกต่างไปจาก อัลโลพูรินอล (Allopurinol) แต่อย่างใด อาการข้างเคียงจากการใช้ยาที่พบบ่อยคือ การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ความผิดปกติของระบบกล้ามเนื้อ และถ่ายเหลว ผู้ป่วยทนต่อยาได้ดี การใช้ยาระยะยาวไม่มีผลทำให้อาการข้างเคียงเพิ่มขึ้น

3. ยาแผนโบราณ

ข้อคำนึงในการรักษาได้แก่

ยาลดกรดยูริคมีผลข้างเคียงที่รุนแรงได้ จึงสงวนไว้ใช้ในผู้ป่วยเก๊าท์เท่านั้น ผู้ที่ตรวจเลือดแล้วพบว่า ยูริคสูง โดยไม่มีอาการปวดข้อแบบเก๊าท์มาก่อน ไม่มีความจำเป็นต้องกินยานี้ เพราะผู้ที่ยูริคสูงไม่ได้เป็นเก๊าท์ทุกคน เพียงแนะนำให้ลดอาหารที่มี purine ดื่มน้ำมากๆ การจะให้ยาลดกรดยูริกจะให้ในกรณีที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อโรคไต การกินยาทำให้เกิดความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงโดยไม่จำเป็น เมื่อมีอาการปวดข้อเกิดขึ้น อย่านวด เพราะการนวด หรือใช้ยาทาถู ทำให้อาการข้ออักเสบ เป็นนานขึ้น หายช้า ในผู้ที่มีอาการข้ออักเสบแบบเก๊าท์ เป็นครั้งแรก ไม่จำเป็นต้องเริ่มยาลดยูริคตั้งแต่แรก เพราะผู้ป่วยส่วนหนึ่ง มีอาการข้ออักเสบ เพียงครั้งเดียวในชีวิต และไม่เป็นอีก และพบว่าการเริ่มกินยาลดกรดยูริคในขณะที่ข้ออักเสบ จะทำให้ข้ออักเสบหายช้าลง ในผู้ป่วยที่กินยาลดกรดยูริคอยู่ อาจพบว่ามีอาการข้ออักเสบแบบเก๊าท์ได้ ซึ่งไม่จำเป็นต้องหยุดยา เพียงแต่รักษาข้ออักเสบตามข้างต้น และเมื่อกินยาต่อไปเรื่อย ๆ จะพบว่า ข้ออักเสบจะเป็นห่างขึ้น เป็นน้อยลง หายเร็วขึ้น จนกระทั่งไม่มีอาการข้ออักเสบอีกเลย หลังจากกินยาไปแล้ว 3-5 ปี อาจลองพิจารณาหยุดยาได้ ในผู้ป่วยที่อายุมาก เนื่องจากยูริคที่เริ่มสูงขึ้นหลังจากหยุดยา กว่าจะเริ่มสะสมจนเกิดข้ออักเสบนั้น กินเวลา หลายสิบปี จนอาจไม่เกิดอาการอีกเลยตลอดชีวิต

Treatment for Intercritical Period and Tophaceous Gout

การรักษาเพื่อป้องกันมิให้โรคเก๊าท์กำเริบโดยการลดน้ำหนัก ควบคุมอาหาร งดสุรา

1 ความคิดเห็น:

  1. ลองใช้น้ำมันดูครับ พวกน้ำมันสมุนไพร เลือกน้ำมันที่ไม่มีส่วนผสมเมลทอล ครับเพราะเมนทอล ในความเห็นส่วนตัวผมว่ามันทำให้กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นยึดตัว แม้จะรู้สึกว่าร้อนแต่ความจริงแล้ว มันแค่หลอกผิวหนัง นอกจากนี้ สรรพคุณสมุนไพรยังเจือจางครับ เพราะเค้าผสม 1 ต่อ 3 (น้ำมันสมุนไพร 1 ส่วน) ตอนนี้ผมเองก็ทำน้ำมันสกัดสมุนไพรครับ ผสมการบูรกันเสียนิดหน่อย เคี่ยวจนเหลือน้ำมันมะพร้าว จากสี่ส่วนเหลือหนึ่งส่วน และมีส่วนผสมลับอีกสูตรหนึ่ง บอกไม่ได้ครับ ลองทำกันใช้ดูครับ ของผมทำไปถวายพระหลายขวดแล้ว และก็แจกจ่ายคนแก่ๆ แรกๆก็บ่นว่าไม่หอม ไม่ค่อยมีกลิ่นหอมเหมือนน้ำมันเหลืองทั่วไป แล้วก็ทาไปไม่รู้สึกเย็นๆ แต่บรรเทาอาการปวดข้อได้ระดับหนึ่งครับ (ดีตรงที่คนข้างๆไม่เหม็นกลิ่นน้ำมัน) สนใจติดต่อได้นะครับ ขวดละ 85 บาท ซื้อยกโหล ขายขวดละ 80 ครับ แต่ถ้ามาที่ร้าน เอาไปลองใช้ฟรีๆ (ให้ตังก็ได้ไม่ว่า) ร้านอยู่ตลาดท่าน้ำเขาสมิง ข้างซอยหน้าอำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด 099-3256894

    ตอบลบ